คำอธิบาย
🍮 ผู้เขียน: ศาสตราจารย์พิเศษธานิศ เกศวพิทักษ์ (กรรมการกฤษฎีกา อดีตรองประธานศาลฎีกาและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ)
🍮 รหัสสินค้า: 9786164041349
บทคัดย่อ/สารบาญ
📌 ภาค ๓ วิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น
บทที่ ๑ แบบของคำฟ้องคดีอาญา
๑. แบบคำฟ้องคดีอาญาทั่วไป
๒. แบบคำฟ้องคดีหมิ่นประมาท
๓. แบบคำฟ้องขอเพิ่มโทษจำเลยฐานไม่เข็ดหลาบ
๔. แบบคำฟ้องความผิดหลายกระทง
บทที่ ๒ การตรวจรับคำฟ้อง และการห้ามราษฎรฟ้องคดีโดยไม่สุจริต
๑. การตรวจรับคำฟ้อง
๒. การห้ามราษฎรฟ้องคดีโดยไม่สุจริต
บทที่ ๓ การไต่สวนมูลฟ้อง
๑. การสั่งไต่สวนมูลฟ้อง
๒. วิธีการไต่สวนมูลฟ้อง
๓. จำเลยไม่มีอำนาจนำพยานมาสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
๔. การคุ้มครองสิทธิในการต่อสู้คดีของจำเลยในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
๕. ผลของการไต่สวนมูลฟ้อง
บทที่ ๔ การแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องและคำให้การ
๑. การแก้หรือเพิ่มเติมฟ้อง
๒. การแก้หรือเพิ่มเติมคำให้การหลักเกณฑ์การแก้หรือเพิ่มเติมคำให้การ
บทที่ ๕ การขาดนัดของโจทก์ในคดีอาญา
๑. หลักเกณฑ์การขาดนัดของโจทก์
๒. หลักเกณฑ์การร้องขอให้ศาลยกคดีของโจทก์ขึ้นไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณาใหม่
๓. หลักเกณฑ์การตัดอำนาจของโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยในเรื่องเดียวกันนั้นอีก
บทที่ ๖ การพิจารณาคดีอาญา
หลักเกณฑ์และขั้นตอนในการพิจารณาคดีอาญา
๑. การพิจารณาและสืบพยานในศาลต้องทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย
๒. การนำมาตรา ๒๓๗ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การสืบพยานในกรณีอื่น ๆ
๓. การเดินเผชิญสืบและการส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่น
๔. การใช้วิธีการสืบพยานที่เหมาะสมแก่การสืบพยานบุคคลบางประเภท
๕. กรณีที่ไม่ได้ตัวพยานที่เป็นเด็กมาเบิกความต่อศาล
๖. การสืบพยานนอกศาลในคดีที่พยานเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี
๗. การสอบถามและ/หรือตั้งทนายความให้จำเลย ข้อสังเกตของมาตรา ๑๗๓ ทั้งสองวรรค
๘. การสอบถามคำให้การจำเลย
๙. จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณา
๑๐. โจทก์ในคดีอาญามีหน้าที่นำพยานเข้าสืบก่อนเสมอ
๑๑. การยื่นบัญชีระบุพยานในคดีอาญา
๑๒. การนำสืบพยานเอกสารในคดีอาญา
๑๓. การกำหนดให้มีวันตรวจพยานหลักฐานก่อนกำหนดวันนัดสืบพยาน
๑๔. การสืบพยานล่วงหน้าหลังฟ้องคดีต่อศาล
๑๕. การเรียกสำนวนการสอบสวน จากพนักงานอัยการมาเพื่อประกอบการพิจารณา
บทที่ ๗ คำพิพากษาและคำสั่ง
๑. หลักเกณฑ์การพิพากษายกฟ้องตามมาตรา ๑๘๕
๒. หลักเกณฑ์การแก้ไขคำพิพากษาหรือคำสั่ง
๓. หลักเกณฑ์การอธิบายข้อสงสัยในคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล
๔. หลักเกณฑ์การห้ามศาลพิพากษาหรือสั่งเกินคำขอ
📌 ภาค ๔ อุทธรณ์และฎีกา
บทที่ ๑ สิทธิในการอุทธรณ์
บทที่ ๒ ข้อจำกัดสิทธิในการอุทธรณ์
๑. การห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา ๑๙๓ ทวิ
๒. การห้ามอุทธรณ์คำสั่งในระหว่างพิจารณา
๓. การห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ในศาลชั้นต้น
๔. การห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
บทที่ ๓ การยื่นอุทธรณ์ การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ การตรวจรับอุทธรณ์ การแก้อุทธรณ์ และการถอนอุทธรณ์
๑. การยื่นอุทธรณ์
๒. การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์
๓. การตรวจรับอุทธรณ์
๔. การแก้อุทธรณ์
๕. การส่งสำนวนอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์
๖. การถอนอุทธรณ์
บทที่ ๔ การพิจารณาคดีชั้นศาลอุทธรณ์
บทที่ ๕ คำพิพากษาและคำสั่งชั้นศาลอุทธรณ์
๑. การห้ามศาลอุทธรณ์พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย
๒. การให้อำนาจศาลอุทธรณ์พิพากษามีผลไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้อุทธรณ์
บทที่ ๖ การพิจารณาพิพากษาคดีที่ส่งขึ้นมายังศาลอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๔๕
หลักเกณฑ์ของมาตรา ๒๔๕ วรรคสอง
๑. ต้องเป็นสำนวนคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
๒. ไม่มีการอุทธรณ์คำพิพากษานั้น
๓. ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งสำนวนคดีนั้นไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค
๔. คำพิพากษาเช่นว่านี้จะยังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคจะได้พิพากษายืน
บทที่ ๗ สิทธิในการฎีกา
บทที่ ๘ ข้อจำกัดสิทธิในการฎีกา
๑. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาตามมาตรา ๒๑๘
๒. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาตามมาตรา ๒๑๙
๓. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาตามมาตรา ๒๒๐
๔. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาตามมาตรา ๒๑๙ ทวิ
๕. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาตามมาตรา ๒๑๙ ตรี
๖. ข้อจำกัดสิทธิฎีกาในกรณีอื่น ๆ
บทที่ ๙ การอนุญาตหรือรับรองให้ฎีกา